The Grand Budapest Hotel (2014) คดีพิสดารโรงแรมแกรนด์บูดาเปสต์ (Full HD)

   ในปัจจุบันเด็กสาววัยรุ่นใกล้อนุสาวรีย์ให้นักเขียนในสุสาน อยู่ในอ้อมแขนของเธอเป็นไดอารี่เขียนโดยตัวละครที่รู้จักกันเท่านั้นขณะที่ "ผู้เขียน" (ทอมวิลกินสัน) เธอเริ่มอ่านบทจากหนังสือ ผู้เขียนเริ่มต้นบรรยายเรื่องจากโต๊ะทำงานของเขาในปี 1985 เกี่ยวกับการเดินทางที่เขาทำกับแกรนด์โรงแรมบูดาเปสต์ในปี 1968 ตั้งอยู่ในสมมุติสาธารณรัฐ Zubrowka รัฐยุโรปอัลไพน์ [15] ซากจากสงครามและความยากจนที่ผู้เขียนหนุ่ม (Jude Law) พบว่าระยะไกลภูเขาโรงแรมได้ลดลงเมื่อเวลาที่ยากลำบาก หลายสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีเงาตอนนี้อยู่ในสภาพที่น่าสงสารของการซ่อมแซมและบุคคลทั่วไปที่มีเพียงไม่กี่ ผู้เขียนพบเจ้าของโรงแรมผู้สูงอายุศูนย์มูสตาฟา (เอฟเมอร์เรอับราฮัม) ในบ่ายวันหนึ่งและพวกเขาตกลงที่จะพบต่อมาในเย็นวันนั้น อาหารค่ำที่ห้องอาหารของโรงแรมขนาดใหญ่ที่ศูนย์บอกเขาเรื่องของวิธีการที่เขาเข้ามาเป็นเจ้าของโรงแรมและทำไมเขาไม่เต็มใจที่จะปิดมันลงมา. [16] เรื่องราวเริ่มต้นในปี 1932 ในช่วงวันพระสิริของโรงแรมเมื่อหนุ่มศูนย์ (โทนี่ Revolori) เป็นล็อบบี้เด็ก Zubrowka เป็นหมิ่นสงคราม แต่นี้เป็นความกังวลเล็ก ๆ น้อย ๆ นายกุสตาฟ H (ราล์ฟฟีนส์), แกรนด์บูดาเปสต์ดูแลแขกอุทิศ เมื่อเขาไม่ได้เข้าร่วมกับความต้องการของลูกค้าที่ร่ำรวยของโรงแรมหรือการจัดการพนักงานของกุสตาฟศาลชุดของผู้หญิงอายุที่แห่กันไปที่โรงแรมเพลิดเพลินไปกับ "บริการพิเศษ" ของเขา หนึ่งของผู้หญิงเป็นมาดามCélineเนิ "มาดาม D" Desgoffe คาดไม่ถึงแท็กซี่ (Tilda สวินตัน) และกุสตาฟใช้เวลาทั้งคืนกับเธอก่อนที่จะออกเดินทางของเธอ หนึ่งเดือนต่อมาเขาได้รับแจ้งว่ามาดาม D เสียชีวิตภายใต้สถานการณ์ลึกลับ ศูนย์การตามแนวเขาที่จะปลุกการแข่งขันและการอ่านพินัยกรรมของเธอที่เขารู้ว่าเธอพินัยกรรมเขาบอยด้วยแอปเปิ้ล, การวาดภาพที่มีคุณค่ามากในพินัยกรรมของเธอ ยั่วโมโหครอบครัวนี้ทุกคนหวังว่าจะได้รับมันเป็นมรดกของเธอ ลูกชายมิดทรี Desgoffe คาดไม่ถึงแท็กซี่ (Adrien Brody) เธอขนออกที่กุสตาฟ ด้วยความช่วยเหลือของศูนย์กุสตาฟที่ใช้การวาดภาพและส่งกลับไปยังแกรนด์บูดาเปสต์, การรักษาความปลอดภัยในการวาดภาพของโรงแรมที่ปลอดภัย ในระหว่างการเดินทางกุสตาฟที่ทำให้สัญญากับศูนย์ - ในการกลับมาเพื่อขอความช่วยเหลือหลังของเขาทำให้ศูนย์ทายาท หลังจากนั้นไม่นานกุสตาฟถูกจับและถูกขังในข้อหาฆาตกรรมของมาดาม D หลังจากบังคับพยานโดยเสิร์จ X (Mathieu มาลริค), มาดามบัตเลอร์ D's กุสตาฟเป็นศูนย์ช่วยในการหลบหนีจากคุก Zubrowka โดยการส่งชุดของเครื่องมือ stoneworking ซ่อนอยู่ภายในขนมเค้กที่ทำโดยศูนย์คู่หมั้นของอกาธา (Saoirse Ronan) พร้อมกับกลุ่มของนักโทษแข็ง, กุสตาฟขุดทางของเขาออกมาจากมือถือของเขา กุสตาฟแล้วทีมขึ้นกับศูนย์ที่จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของเขา การผจญภัยของพวกเขาจะนำพวกเขาไปยังวัดยอดเขาที่พวกเขาได้พบกับเสิร์จบุคคลเพียงคนเดียวที่สามารถล้างกุสตาฟของข้อกล่าวหาฆาตกรรม พวกเขาจะไล่ตาม JG Jopling (วิลเล็ม Dafoe), นักฆ่าเลือดเย็นที่ทำงานให้กับมิดทรีคือผู้ที่ฆ่าเสิร์จ ศูนย์และกุสตาฟขโมยเลื่อนและการไล่ล่า Jopling ในขณะที่เขาหนีไปที่วัดบนสกี ในช่วงหน้าออกที่ขอบของหน้าผาศูนย์ผลักดันนักฆ่าให้ตายของเขาและช่วยกุสตาฟ กลับไปที่แกรนด์บูดาเปสต์, การระบาดของสงครามเป็นใกล้และทหารได้ยึดโรงแรมและอยู่ในขั้นตอนของการแปลงลงในค่ายทหารอกหักกุสตาฟสาบานจะไม่เคยอีกครั้งผ่านเกณฑ์ อกาธาร่วมสองและตกลงที่จะเข้าไปข้างในและเรียกภาพวาด แต่มิดทรีค้นพบของเธอและการวาดภาพ การไล่ล่าและยิงวุ่นวายตามมาก่อนที่จะไร้เดียงสาของกุสตาฟที่ได้รับการพิสูจน์ในที่สุดโดยการค้นพบของสำเนาของมาดาม D's จะที่สองซึ่งเธอให้การเสิร์จและเขาก็ซ่อนตัวอยู่ในด้านหลังของภาพวาด นี้จะเป็นที่จะมีผลบังคับใช้ถ้าเธอถูกฆ่าตาย ตัวตนของฆาตกรมาดาม D's และวิธีการที่กุสตาฟที่มีการพิสูจน์แล้วว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ที่เหลือคลุมเครือ จะยังแสดงให้เห็นว่าเธอเป็นเจ้าของลึกลับของแกรนด์บูดาเปสต์ เธอออกมากของโชคลาภของเธอโรงแรมและการวาดภาพที่กุสตาฟทำให้เขาร่ำรวยในกระบวนการและเขาจะกลายเป็นหนึ่งในแขกประจำของโรงแรมในขณะที่กลายเป็นศูนย์อำนวยความสะดวกใหม่ ในระหว่างการเดินทางรถไฟข้ามพรมแดนทหารศัตรูตรวจสอบกุสตาฟและศูนย์เอกสาร แกเรื่องที่ศูนย์อธิบายกุสตาฟที่จะถูกนำออกมาและยิงหลังจากการปกป้องศูนย์ขณะที่เขาทำเกี่ยวกับการนั่งรถไฟครั้งแรกในการเริ่มต้นของภาพยนตร์ อกาธามาทนทุกข์กับ "ไข้หวัดใหญ่ปรัสเซียน" และตายสองปีต่อมาเช่นเดียวกับลูกชายทารกของเธอ ศูนย์สืบทอดโชคลาภกุสตาฟและทิ้งไว้หลังคำสาบานที่จะดำเนินการมรดกของเขาที่แกรนด์บูดาเปสต์ แต่การปฏิวัติคอมมิวนิสต์ Zubrowka และการทำลายล้างของเวลาที่ช้าเริ่มที่จะใช้โทรของพวกเขาทั้งในอาคารและเจ้าของ อายุและความเสียหายเป็นศูนย์เพื่อข่มขวัญผู้เขียนว่าเขาไม่สามารถพาตัวเองไปปิดโรงแรมเพราะมันคือการเชื่อมโยงครั้งสุดท้ายของเขากับปีที่ดีที่สุดในชีวิตของเขา ผู้เขียนภายหลังออกอเมริกาใต้และไม่เคยกลับไปที่โรงแรม ย้อนกลับไปในปัจจุบันหญิงสาวยังคงอ่านในด้านหน้าของรูปปั้นของผู้เขียน